สำหรับบทความนี้แอดมิน easywarehouse จะแนะนำโปรแกรามที่ใช้สำหรับออกแบบ โกดัง โรงงาน สำนักงาน ทั้งหมด ที่ต้องใช้ในขั้นพื้นฐาน ย้ำนะครับสำหรับขึ้นพื้นฐาน เพราะสำหรับมืออาชีพ จะเพิ่มความซับซ้อนเข้าไป และค่า subscription ซึ่งจะสูงตาม scale งานออกไป

บทความนี้เลย จะพามาดูโปรแกรมที่จำเป็นต้องใช้ในการคำนวณ ออกแบบ เขียนแบบ และจัดทำตารางเพื่อส่งออกไปให้จัดซื้อและตรวจสอบ จะมีอะไรบ้าง เดี่ยวแอดมินจะพาไปดู

1. โปรแกรมสำหรับออกแบบทางสถาปัตยกรรม
2. โปรแกรมสำหรับออกแบบทางวิศวกรรม
3. โปรแกรามสำหรับใช้ในสำนักงาน

1. โปรแกรมออกแบบ งานสถาปัตยกรรม

สำหรับโปรแกรมออกแบบจะมีเป็น 2 แบบหลักๆคืองโปรแกรมที่ใช้สำหรับทำงาน 3d และโปรแกรมที่ใช้สำหรับงานเขียนแบบ  โดยสถาปนิกจะจำเป็นต้องใช้ทั้ง 2 โปรแกรมสำหรับงานออกแบบ งานทำงาน 3d นำเสนอ และงานเขียนแบบสำหรับแบบที่จะยื่นขออนุญาตก่อสร้างและแบบสำหรับงานก่อสร้างสร้าง

โดยจะตัวอย่างการเลือกใช้ที่ง่ายจะมีดังนี้

1.1.) โปรแกรมสำหรับงานออกแบบออกแบบ 3D

สำหรับโปรแกรมที่ใช้ในการออกแบบ 3d เพื่อนำเสนอรูปแบบให้ลูกค้านั้น จะใช้เลือกจับคู่กันระหว่างโปรแกรม sketch up และ d5  เพราะเป็นคู่ที่ทำงานได้ง่ายที่สุด และมีค่า subscription ที่ย่อยเยาไม่แพง โดย sketch up จาก trimble มีค่า sub scription อยู่ที่ประมาณ 12,500-13,500 บาท/user/ปี และ D5 จะเป็นโปรแกรมให้ใช้ฟรี แต่จะ lock บาง function และบางวัสดุเอาไว้สำหรับการ subscription รายปีเท่านั้น

1.2.) โปรแกรมสำหรับงานเขียนแบบ

สำหรับโปรแกรมในการเขียนแบบนั้น ทั้งสถาปนิกและวิศวกรส่วนมากจะถนัดการเขียนแบบ cad ฉะนั้นโปรแกรมกระตูล cad ทั้งหลายจึงเป็ฯที่นิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ auto cad และเนื่องจากความนิยม ราคาจึงสูงตามมาประมาณ 12,500-15,500 บาท/user/ปี ในท้องตลาดจะมีตัวเลือกอื่นๆที่ให้เลือกเช่น gstarcad หรือ draftsign ซึ่งทั้ง2 โปรแกรมนี้ราคาจะถูกลงมาเกือบครึ่ง ประมาณ 7,500-8,500 บาท/user/ปี และสามารถใช้งานได้เหมือนกันทุกประการ แต่บางคำสั่งจะเปลี่ยนไป อาจต้องมีการปรับตัวเล็กน้อย แต่ไม่ยาก และไม่นาน เมื่อเทียบกันแล้ว เลือกตัวที่ประหยัดก็จะคุ้มกว่า

2. โปรแกรมออกแบบ ทางวิศวกรรม

สำหรับโปรแกรมออกแบบจะมีเป็น 2 แบบเช่นกันคือ การออกแบบโครงสร้าง และการเขียนแบบโครงสร้างเพื่อการขออนุญาตก่อสร้าง และการก่อสร้างหน้างาน โดยโปรแกรมการออกแบบโครงสร้างนั้น เนื่องจากไม่ต้องนำเสนอเป็นรูปแบบ 3มิติ วิศวกรหลายๆท่านจึงสามารถเขียนสูตรเองใน excell เพื่อใช้ในการคำนวณได้เอง หรือ สามารถเลือกโปรแกรมคำนวณที่แนะนำใน สถาวิศวกรรมมาใช้อย่าง DRMK เพราะเป็นโปรแกรมฟรี  ใช้งานง่าย สามารถใช้งาน่าน website ได้  

2.1.) โปรแกรมสำหรับงานออกแบบออกแบบโครงสร้าง

สำหรับโปรแกรมที่ใช้ในการ ออกแบบโกดังโครงสร้างนั้น ในท้องตลาดมีหลากหลาย เราสามารถเลือกได้จาก scale งานของเรา โดยส่วนมากโปรแกรมฟรี หรือโปรแกรมที่เขียนเองใน excell ก็จะใช้ method การคำนวณอย่างง่ายคือ 2 มิติ ทำให้การวิเคราะห์โครงสร้างไม่ลึกซึ้ง จะเหมาะกับงานง่ายๆ ไม่ซับซ้อนเช่น บ้าน1 ชั้น หรือโครงหลังคา เมื่อออกแบบแล้วโดยรวมจะวิเคราะห์แบบ single ทำให้ราคาก่อสร้างอาจจะแพง  แต่ถ้าเป็นโปรแกรมที่สำหรับวิเคราะห์โครงสร้างจริงๆ อย่าง medas gen หรือ tekla ที่มีความซับซ้อน สามารถออกแบบและวิเคราะห์โครงสร้างแบบหลายมิติได้ และสามารถส่งแบบทำ shop ต่างๆและใช้คู่กับโปรแกรมอื่นๆได้นั้น ราคาค่า subscription ก็จะแพงขึ้นมาด้วย โดย tekla ราคาสูงถึงปีละ 200,000-300,000 บาท/user/ปี เลยทีเดียว 

2.2.) โปรแกรมสำหรับงานเขียนแบบ

สำหรับโปรแกรมในการเขียนแบบ ทางวิศวกรก็จะชำนวญการเขียน style cad ไม่ต่างจากสถาปนิก ดังนั้นโปรแกรมที่เลือกใช้ก็จะเหมือนๆกันคือ autocad gstarcad หรือ draftsign 

*** และสำหรับวิศวกร ในการออกแบบจะต้องหมุนโมเดล 3D จากทางสถาปนิกออกแบบด้วยฉะนั้นอาจจะมีโปรแกรม sketch up แต่เป็นแบบ viewer แทนซึ่งจะไม่มีค่า subscription แต่ก็แลกกับการที่ไม่สามารถแก้ไขโมเดลใดๆได้ ได้แต่มองอย่างเดียว

3. โปรแกรมสำหรับสำนักงาน

สำหรับหลักที่จะใช้ในการจบงานเพื่อนำเสนอให้เป็น BOQ หรือข้อมูลให้กับลูกค้า โดยปัจจุบันจะมี 2 กลุ่ม โดยกลุ่ม gen y ขึ้นไปมักจะใช้ micro soft office 365 business ซึ่งมีค่า subscription อยู่ที่เดือนละประมาณ 500 บาท/user ส่วนคน gen z ลงมา มักจะใช้โปรแกรมที่ฟรีและดูดีโดดเด่นกว่า เช่น Google Sheets Canva หรือ Notion Table/Database  ซึ่งจะเป็นโปรแกรมฟรีส่วนใหญ่ แต่จะมี function ที่ lock ไว้และปลด lock เพื่อ subscription เท่านั้น

สรุป

ดังนั้นโปรแกรมที่ใช้ในการออกแบบโกดัง โรงงาน สำนักงาน ขั้นต่ำแล้วจะมีดังนี้

โปรแกรม	แผน/รุ่นที่อ้างอิง	รายเดือน (บาท)	รายปี (บาท)
SketchUp	SketchUp Pro	≈ 1,800	≈ 12,900
Microsoft 365 Personal	Microsoft 365 Personal (Desktop + Cloud)	≈ 360	≈ 3,600
GstarCAD 2025 Standard	Subscription 1 ปี	—	≈ 8,600
	รวม/user (รายปี)		≈ 25,100

ฉะนั้นแล้ว ต่อ 1 คนหรือ user จะต้องมีค่า subscription เริ่มต้นอยู่ที่ 25,100 โดยประมาณ หากมีพนักงาน 5 seats ก็จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 125,500 บาท/ปี. โดยหากแยกแผนก หรือคัดที่จำเป็น ค่าใช้จ่ายก็จะถูกลงมาด้วยครับ